Day 1: Hallo! Groningen

พูดถึงทุนเรียนดนตรีมา 3 ตอน ขอขึ้นภาคใหม่นะครับ เรื่องราวใน โกรนินเกน เนเธอร์แลนด์ จะโหด มัน ฮา อย่างไร ไปชมกันเลยดีกว่าครับ

ตอนเก่าๆ Benny Golson,Denny, Joris กับ ทุนเรียนดนตรี เนเธอร์แลนด์ (ตอนที่ 1), ทุนเรียนดนตรี เนเธอร์แลนด์ (ตอนที่ 2) Prince Claus และ Music Scolarship Groningen, Netherland (ตอนที่ 3)

วันที่เดินทาง วันที่ 3 มีนาคม 2010 ก็วุ่นวายพอสมควรทีเดียว เพราะเพิ่งกลับจาก งานแต่งงาน เม่นกับจี้ ที่ ปาย มา เมื่อวันที่ 28 ก.พ. (ก่อนหน้านั้นก็ปั่นๆ การบ้าน paper และการบ้าน blog) แล้วก็นัดเลี้ยงเพื่อนดุริยางค์ สวนกุหลาบ เย็นวันนั้น พอวันที่ 1 ก็เลี้ยงเพื่อนสวนกุหลาบ ม.ปลาย ที่วัดญาณเวสกวัน ที่พุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งเป็นที่ที่เพื่อนร่วมห้องผม พระปณต จำวัดอยู่ ก็เป็นงานเลี้ยงห้องกลายๆ เพราะอั๋นก็ไปเป็นรองกงศุลไทยใน L.A. แจ๊คไปทำงานบริษัทเก่า แต่ relocate ไปสิงคโปร์ ผมก็ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนตอนอายุ 32 (Haha)

วันที่ 2 สอบวิชาเครื่อง Jury ต้องขอบคุณอ.เด่น กับอ.ช้างต้น เป็นอย่างมากที่ให้ความเมตตา ผ่านไปได้ เพราะยอมรับว่าเล่นได้ไม่ดีเลย สมาธิไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว พอเสร็จกับไปเคลียร์เรื่องบัญชีธนาคาร และซ่อม iPhone แล้วไปแจมนัดสั่งลา กับวง #iHear ที่ Bamblu bar และ Iron Fairy ทองหล่อ

จนวันที่ 3 ก็ยังไม่ได้จัดของซะที ช่วงเช้าไปทำบัตร Visa-Electron เพื่อให้กดเงินสดจากบัญชีเราที่กทม.ได้ (ต้องมีตรา Sirus กำกับ) สำหรับ SCB ทำที่สาขาที่เราเปิดบัญชีไว้ รอรับได้เลย เร็วมาก แต่ผมก็ยังวุ่นอยู่ดี เพราะต้องไปสอบวิชา Dictation ตอน 10 โมง เลยทำสถิติใหม่ กับน้อง Nissan Sunny ที่ไปเปลี่ยนเครื่องมาเป็น NV ที่ความเร็วเท่าไหร่ ไปดูกันเองนะครับ จากด่านพระราม 4 ถึงศรีสมาน ใช้เวลา 15-20 นาที ห้ามเลียนแบบนะครับ

ความเร็วจริงๆ น่าจะอยู่ที่ 140 km/h ครับ มือสั่นเลยผม

ยังไม่หมดแค่นั้น รีบเคลียร์ข้อสอบ Analyze เพลงคลาสสิค แบบด่วนที่สุด แล้วตามด้วยวิชา Aural Skill ซึ่งสอบอ.บุญรัตน์​ ไม่ทันเลยใช้วิธีอัพ vdo ลง facebook แทน ลองดูละกันครับ ล่ก ขนาดไหน

เสร็จแล้วรีบกลับมาจัดกระเป๋า ทางเพื่อนๆ ป.โท ติดสอบกัน ทางอ.ที่ม.รังสิต ก็วุ่นๆ ด้วย ส่วนผมได้มีโอกาสโทรไปหา อ.ที่ปรึกษา สมัยเรียนวิศวะฯ อ.ดร.สมบูรณ์ จงชัยกิจ ด้วย ท่านให้ข้อคิดและแนะนำสถานที่เที่ยวหลายอย่าง สุดท้าย ทางพ่อแม่ และน้องผมไม่ได้มาส่งครับ ได้ขวัญช่วยขับรถมาส่ง แถมยังเป็นฮีโร่หญิงในตอนหลังด้วย มาที่สนามบิน ก็เจอเพื่อนกลุ่ม #iHear มี @iPattt @tongkatsu ที่เพิ่งเสร็จงาน Ignite Bangkok มา (ตามอ่านในบล็อกของทั้งสองคนนะครับ) ตามมาด้วย @iPouo2e @feelinglomo @mhengjung @kristkwan @everysundays @ajarnmoo พร้อมด้วยเซลล์กรุ๊ป กลุ่ม Young Blood และพี่นะมิต กัปตันการบินไทย ที่มาคอยอำนวยความสะดวกให้ แลกกับผมให้ยืม Cornet อิอิ

เพราะกระเป๋าผมน้ำหนักเกิน ทาง China Airline ไม่ยอมด้วย Strict มากๆ เขาบอกว่าถ้าจะขอสิทธินักเรียน ต้องทำหนังสือมาด้วย (แต่ผมว่าเขาพูดไปงั้นแหละ แก้เกี้ยวมากกว่า) ก็ต้อง Re-pack กันใหม่

33kg ต้องเปลี่ยนกระเป๋าเอาใบที่เบากว่า

ที่ว่าขวัญเป็นฮีโร่ ก็เพราะตอนแรกมีกระเป๋าสองใบ คือ Samsonite ของสมัยพ่อแม่ไปฮันนีมูน ซึ่งแข็งแรงมาก 33 ปีไม่บุบสลาย กับใบที่ขวัญให้มาซึ่งเบากว่า เลยต้องย้ายไปใส่อันนั้น ถึงตอนนี้สภาพก็เหมือนตะวันนา แล้วล่ะครับท่าน

แล้วก็ตามมาด้วยการอธิษฐานเผื่อครับ เป็นสิ่งที่คริสเตียนทุกคนควรกระทำครับ

พอเข้า Gate ไปตอนเที่ยงคืน เครื่องจะออกตีสองครึ่ง เลยแวะไปที่ JAL Lounge ตามคำเชิญที่พี่ Namitz กัปตันการบินไทย ซึ่งเป็นคนสอนผมเป่าทรัมเป็ตคนแรกที่สวนกุหลาบ ก็ได้เจอพี่โอ๋ แฟนพี่นะมิตซึ่งทำงานที่ JAL มาต้อนรับเป็นพิเศษ ด้วยอาหารว่างมากมาย รวมทั้งข้าวปั้นและเจ้านี่ครับ Sushi…

Sushi JAL Lounge อภินันทนาการจากพี่โอ๋ แฟนพี่ namitz

แล้วก็เดินทางต่อครับ ใช้เวลา 12 ชั่วโมง แล้วไปขึ้นรถไฟต่อ ทีแรกก็งงๆ เหมือนกัน ต้องไปซื้อตั๋วก่อน แล้วไปถามชานชลาจากเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะตั๋วไม่บอกอะไรเลย (ภาษาดัตซ์) พอนั่งไปก็ต้องไปเปลีี่ยนรถไฟที่สถานี Amersfoort (บางขบวนก็ต้องเปลี่ยนที่ สถานี Utrecht แล้วแต่กรณี) เพื่อเดินทางไปยังจุดหมายคือ Groningen Station

พอไปถึงก็ไปถาม Information และโทรหาฝ่าย International Student Organization (ISO) ของที่นี่ คือคุณ Etelka Csonka ซึ่งช่วยเหลือผมมาตลอด ทำให้รู้ว่า เบอร์ของที่นี่ต้องเติมเลข 0 เหมือนบ้านเรา ทีแรกก็กดอยู่นาน แถมเครื่องไม่ยอมคืนเงินด้วยแฮะ ปรากฏอีเต็ลก้า ไม่อยู่ เลยโทรหาหัวหน้าห้องที่เราไปพัก ก็เลยไปหาเขาก่อน จริงๆ พอนั่งรถบัสและเดินได้ แต่มีของ เลยนั่ง Taxi ครับ อ่วยไปเหมือนกัน 8,20 Euro (เงินสกุลยูโร ใช้เครื่องหมายมหัพภาพ . กับจุลภาค , สลับกันอยู่นะครับ เช่น เงินหนึ่งพัน=1,000.00 (แบบคนไทย)=1.000,00 (แบบ Neder)

ก็เลยเข้าห้อง และขอย้ายห้องจากเตียงคู่เดือนละ 268 Euro มาเป็นห้องเดี่ยวเดือนละ 355 Euro เพราะเป็นส่วนตัวกว่าครับ ก็คิดว่าคิดถูก เพราะพอออกไปนั่งคุยกับเพื่อนร่วมหอ เขาก็ว่า เขาเคยพักคู่ที่อื่นก็ไม่ค่อยปลื้ม ช่วงนี้ผมก็เจอเพื่อนต่างชาติเยอะนะครับ ส่วนใหญ่ก็ทักด้วยคำว่า “Hallo” จนเป็นที่มาของบล็อกนี้ครับ

เพื่อนที่ผมเจอสี่คน คนแรกรูมเมทเก่าเป็นคนตุรกี อีกสามเจอพร้อมกัน คือ Katerine(German), EZ (Greece) และ อีกคนจากมาเก๊า ส่วนหัวหน้านักเรียนนั้นก็ช่วยเรื่องของ Internet เพราะที่นี่ใช้ VPN และต้องใช้สาย Lan ด้วย ดีที่ผมติดมานะ ไม่งั้นอดเล่นเน็ตแน่ๆ

ห้องเดี่ยว อยู่สบายดีครับ

ห้องเดี่ยว อยู่สบายดีครับ

เสร็จแล้วก็ตามด้วยการเยี่ยมชมเมืองเอง โดย เดินๆๆ และ เดาๆๆ จนมาเจอร้านชำขนาดใหญ่ เลย คือ Albert Heijn เลยรอดตาย ซื้อเสบียงกลับมา ซึ่งส่วนใหญ่ของที่ราคาถูกจะอยู่ชั้นล่างสุดเลย หมดเงินไป 28.20Euro แล้วก็กลับมาที่หอ Winschoterdiep ตอนสามทุ่ม

Nederland Trip on PhotoPeach

Nederland Trip (day 1) on PhotoPeach

มี 1 ความคิดเห็น สำหรับ “Day 1: Hallo! Groningen”

  1. Genzo

    น้ามิต เป็นผู้เฒ่าเต่า ของ ซุนหงอคง อย่างปลาทอง… เอิ๊กๆ

ทักทาย

หากต้องการให้มีรูปอวตาร (avatar) ประจำอีเมล กรุณา สมัครที่ Gravatar