ขอเอาเพื่อนมาขายหน่อยครับ กับงานคอนเสิร์ตจบการศึกษา ของเพื่อนสมัยมัธยมผม ที่โรงเรียนสวนกุหลาบ ครับคุณประหยัด ศุภจิตรา ครับ ตอนนี้ก็ไปเป็นอาจารย์ที่ม.สงขลา ครับ กับธีมงานโหดๆ อย่าง Sunny Rollins – Colousus ครับ ยินดีด้วยกับมหาบัณฑิตประหยัดครับ

Sonny Rollains

จาก Free Concert จบ ของ อ.ประหยัด (ปริญญาโท ม.มหิดล)

BIOGRAPHY:Sonny Rollins

Few would quarrel with the proposition that THEODORE “SUNNY” ROLLINS is the greatest tenorist left alive.,
And not many more would raise an eyebrow at
the contention that he it one of the most
important saxophone in jazz history
RICHARD PALMER

Theodore Walter “Sonny” Rollins was born in New York on September 7, 1930. He started as a pianist, changed to alto saxophone, and finally switched to tenor in 1946. Sonny’s initial inspiration was Coleman Hawkins and Lester Young.
After he got away from the drug lifestyle. In late 1955, he felt strong enough to return to jazz full-time and restarted his jazz career with one of the greatest bands of the hard bop era (The Brown-Roach band).

On June 22, 1956, Sonny Rollins recorded Saxophone Colossus, his fourth album and it was Sonny’s masterpiece. Despite Sonny does not think of Saxophone Colossus as an especially important album. Saxophone Colossus, however, would permanently establish Sonny on the first tier of great jazzman and as one of the greatest of all tenor saxophonists.
After a highly successful career, Sonny continued the other album (Next album, The Cutting Edge, Don’t Stop to the Carnival, Sonny Days, etc.).

On September 18, 2007, Sonny performed at Carnegie Hall, in commemoration of the 50th anniversary of his first performance there.

ซันนี่ โรลลินส์

มีถ้อยคำไม่มากเลยที่จะกล่าวตำหนิ ธีโอดอร์ ซันนี่ โรลลิ่นส์ ยอดนักเทนเนอร์
ที่ยังมีชีวิตอยู่ ในทางตรงข้าม กลับมีถ้อยคำไม่มากพอเพื่อที่จะแสดงความประหลาดใจในข้อยืนยันที่ว่า เขาคือคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งในวงประวัติศาสตร์นักแซกโซโฟนแจ๊ส
ริ ชาร์ด พาลเมอร์

ธีโอดอร์ วอเตอร์ ซันนี่ โรลลินส์ เกิดวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2473 ที่เมืองนิวยอร์ค เขาเริ่มต้นเป็นนักดนตรีจากการเป็นนักเปียโน ต่อมาได้เปลี่ยนมาเล่นอัลโตแซกโซโฟนและในที่สุดก็หันมาเล่นเทเนอร์แซกโซโฟน ในปี พ.ศ.2489 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเล่นของสองนักดนตรีอย่าง โคลแมน ฮอคกินส์ และเลสเตอร์ ยัง

ในปี พ.ศ. 2498 ภายหลังจากที่ซันนี่เลิกเสพยาเสพติดได้ เขาได้กลับมาเริ่มต้นอาชีพนักดนตรีแจ๊สใหม่อีกครั้ง โดยได้ร่วมเล่นกับวงสุดยอดวงดนตรี hard bop ในช่วงเวลานั้น อย่าง The Brown-Roach band

ซันนี่ บันทึกเสียงอัลบั้ม Saxophone Colossus เมื่อวันที่ 22 เดือนมิถุนายน พ.ศ.2499 ซึ่งเป็นอัลบั้มที่สี่และถือได้ว่าเป็นผลงานชิ้นยอดเยี่ยมที่สุดของเขา ทั้ง ๆ ที่ ซันนี่ เองกลับไม่ได้คิดว่าอัลบั้ม Saxophone Colossus เป็นอัลบั้มที่มีความพิเศษกว่าอัลบั้มอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม อัลบั้ม Saxophone Colossus ได้สถาปนาให้เขากลายเป็นนักดนตรีแจ๊สชั้นยอดและเป็นหนึ่งในนักเทนเนอร์แซกโซ โฟนที่ดีที่สุด

ภายหลังจากการประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดแล้ว ซันนี่ ก็ยังคงผลิตอัลบั้มอื่น ๆ ออกมาอีกจำนวนมาก เช่น Next album, The Cutting Edge, Don’t Stop to the Carnival, Sonny Days ฯลฯ

ในปี พ.ศ.2550 ซันนี่ โรลลินส์ ได้กลับมาเปิดการแสดงที่ Carnegie Hall อีกครั้ง เนื่องในโอกาสรำลึกถึงการครบรอบ 50 ปี ที่เขาได้มาแสดงดนตรีครั้งแรก ณ ที่นี่

Program

Moritat …Brecht/Weill
เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อภาษาเยอรมันว่า “Mack the Knife” โดยเป็นบทเพลงลำดับที่ 4 ในอัลบั้ม Saxophone Colossus ในการแสดงครั้งนี้ได้นำมาบรรเลงในรูปแบบ piano less trio ได้แก่ แซกโซโฟน ดับเบิ้ลเบส และกลอง ซึ่งเป็นลักษณะการเล่นที่โดดเด่นของซันนี่ โรลลินส์

You Don’t Know What Love Is …Depaul,Ray
บทเพลงลำดับที่สอง ในอัลบั้ม Saxophone Colossus เป็นบทเพลงในรูปแบบบัลลาตซึ่งเป็นที่นิยมและแสดงออกได้อย่างทรงพลัง ในการแสดงครั้งนี้ได้นำวิธีการเล่นแบบ duet in trio

Strode Rode …Sonny Rollins
บทเพลงลำดับที่สามของอัลบั้ม Saxophone Colossus เป็นเพลงที่ซันนี่ โรลลิ่นส์ ประพันธ์ไว้ในจังหวะที่ค่อนข้างเร็ว และได้กลายมาเป็นหนึ่งในเพลงที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ในการแสดงครั้งนี้จะคงรูปแบบดั้งเดิมของเพลงไว้อย่างครบถ้วน

Valse Hot …Sonny Rollins
บทเพลงที่ ซันนี่ โรลลิ่นส์ ได้ประพันธ์ไว้ เป็นเพลงที่ไม่ได้อยู่ในอัลบั้ม Saxophone Colossus แต่ได้นำมาบรรเลงในการแสดงครั้งนี้ เนื่องจากเพลงมี time signature เป็น ¾ และเพื่อเป็นสร้างความหลากหลายให้กับโปรแกรมการแสดง อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่หลากหลายของ ซันนี่ โรลลินส์

St. Thomas …Sonny Rollins
บทเพลงลำดับที่ 1 ในอัลบั้ม Saxophone Colossus ซึ่งเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างสูง กล่าวได้ว่าซันนี่เป็นคนแรกที่นำจังหวะคาลิปโซมาเล่นในดนตรีแจ๊ส ดังนั้นเพลงนี้จึงเป็นเพลงที่แสดงให้เห็นการผสมผสานดนตรีจังหวะคาลิปโซเข้า กับดนตรีแจ๊สได้อย่างประสบความสำเร็จและน่าสนใจ

Blue Seven …Sonny Rollins
Blue Seven เป็นผลงานเพลงชิ้นยอดเยี่ยม ที่แสดงให้เห็นการเล่นแบบ basic blue line ที่ได้รับการประเมินค่าอย่างสูง และถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของการบรรเลงคีตปฏิภาณที่แสดงให้เห็นถึงการใช้ เทคนิคแปรทำนองอย่างแท้จริง ในการแสดงครั้งนี้ได้นำทำนองของเพลงนี้มาตีความใหม่ตามแนวทางของผู้เล่นและ แปรทำนองใหม่ อีกทั้งได้เพิ่มแนวทำนอง counter melody โดยจะบรรเลงในสไตล์ ฟังค์

Don’ t Stop to the Carnival …Sonny Rollins
เพลงนี้เป็นบทเพลงที่ซันนี่ โรลลิ่นส์ประพันธ์ขึ้น โดยได้นำจังหวะ คาลิปโซกลับมาใช้ในการบรรเลงอีกครั้งหนึ่ง รวมถึงการนำกีต้าร์ และเบสไฟฟ้ามาใช้ประกอบด้วย

This recital is presented in partial fulfillment of the requirements for the degree Master of Arts (M.A.) in Music.

ประวัติ ประหยัด ศุภจิตรา

ประหยัด ศุภจิตรา เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้เริ่มต้นเล่นดนตรีกับวงโยธวาธิตโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร

เมื่อ พ.ศ. 2543 ได้รับปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิต (ศศ.บ.) สาขาดุริยางคศาสตร์สากล จากมหาวิทยาลัยทักษิณ จังหวัดสงขลา

ระหว่าง พ.ศ. 2547 – 2552 ได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาดนตรีปฏิบัติ แจ๊ส ที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยอยู่ภายใต้การดูแลของ อ.กฤษดิ์ บูรณวิทยาวุฒิ (อ.วิลเลี่ยม)
ทั้งนี้ ในระหว่างการศึกษาได้รับทุน (UDC.) จากโครงการผลิตและพัฒนาอาจารย์ของสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.)

เมื่อ พ.ศ. 2549 ได้รวมวงชื่อ Super Save Quartet เข้าประกวด Thailand Jazz Competition ครั้งที่ 2 ผลการประกวดได้เข้ารอบสุดท้าย
นอกจากนั้นยังได้ รับการคัดเลือกเข้าเป็นสมาชิกวง Thailand Saxophone Ensemble เข้าร่วมการประชุมสหพันธ์แซกโซโฟนโลก ครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 1-11 กรกฎาคม 2549 ณ ประเทศฮังการีและสโลวีเนีย

ปัจจุบันเป็นอาจารย์ ประจำภาควิชาดุริยางค์สากล คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ จังหวัดสงขลา

Prayat Supajitra was born in 1977. he began to study saxophone
with Suankulab Wittayalai School Bangkok.

In 2000, he received his Bachelor of Arts degree in Music from Thaksin University. (Songkhla)

In 2004 – 2009, he is a master degree student majoring in Jazz Performance at College of Music, Mahidol University under the instruction of Ajarn Krit Buranavitayawut (William).
During that time, he received the University Development Committee Scholarship (UDC.) from Office of the Higher Education Commission.

In 2006, His band –Super Save Quartet- was the finalist of the 2nd Thailand jazz competition.
In addition to, he was one of members in the Thailand Saxophone Ensemble band and participated in “the 14th World Saxophone Congress” during July 1-11, 2006, at Hungary and Slovenia.

Currently, he is an instructor on Department of Western Music, Faculty of Fine and Applied Arts, at Thaksin University. (Songkhla)

Prayat Recital on 21/5/09 on PhotoPeach