คำพยาน 10 ปี Milal Missionary Choir คณะนักร้องประสานเสียงมีรัล มิชชันนารี กรุงเทพฯ เราจะมีพันธกิจ ที่จ.สุพรรณบุรี 18-19 มิ.ย. 2011 นี้ครับ ปกติแล้ว คณะนักร้องมีรัลจะเป็นคริสเตียนชาวเกาหลีที่อาศัยอยู่ในประเทศนั้นๆ แต่สำหรับประเทศไทย จะเป็นชาวไทยมากกว่า 80% ครับ และทุกๆ มิชชั่น ที่เราไปทำพันธกิจกันนั้น พระเจ้าได้อวยพรคณะเราอย่างไร
คติพจน์ของคณะนักร้อง Milal คือ “เราจะร้องเพลงเพื่อ ถวายเกียรติแด่พระเจ้า และจะร้องจนกว่าพระเยซูคริสต์เสด็จกลับมา”
สำหรับพันธกิจล่าสุดที่ทางคณะเราจะไปทำก็คือ ถวายอาคารของคริสตจักรเมโทดิสต์ คลอง 4 รังสิต วันเสาร์ที่ 4 มิ.ย. 2011 เวลา 10:00 และ มิชชั่นทริปที่จ.สุพรรณบุรี ในวันเสาร์อาทิตย์ที่ 18-19 มิ.ย. 2011 ตามกำหนดการดังนี้ครับ
พันธกิจ มีรัล: เสาร์ 18 มิ.ย.2011
พันธกิจ (1) – โรงเรียนสุพรรณบุรีปัญญานุกูล
พันธกิจ (2) – สถานพินิจเด็ก
Praise Concert – คริสตจักรทวีพรศรีประจันต์
พันธกิจ มีรัล: อาทิตย์ 19 มิ.ย.2011
นมัสการและถวายเพลงพิเศษที่คริสตจักรพรประสาท
พันธกิจ (3) – โรงเรียนประทีปศึกษา
ที่มาของหนังสือ 10 ปี มีรัล โดย Lh • Pattaya Upara
คุณล๋ง ได้เริ่มวางโครงของหนังสือ 10 ปี คณะนักร้องประสานเสียงมีรัล กรุงเทพฯ ไว้กับคำถามง่ายๆ สองคำถามครับ
1. ขอคำพยานจากทุกท่าน ยาวได้สั้นได้แล้วแต่ท่านนะครับ “ท่านคิดว่าพระเจ้าทรงเลือกท่านมารับใช้ในคณะนักร้องมีลัลของเรา เพราะอะไร?”
2. ขอ 1 ย่อหน้าสั้นๆ จากทุกท่าน “สถานที่ใด จังหวัดไหน ที่ท่านไปทำพันธกิจและจำได้ และมีความสุขที่ได้ไป?”
ซึ่งคำตอบก็มีแตกต่างออกไป เพราะพระเจ้านั้นมีแผนการเฉพาะสำหรับชีวิตของแต่ละคนครับ นี่เป็นตัวอย่างสั้นๆ ครับ
คำพยาน 10 ปี Milal โดย Gift Blossom (น้องกิฟท์)
ขอตอบคนแรกเลยค่า555
1. คิดว่าพระเจ้าเลือกมาให้กิฟเนยนุ่นมาเป็นทีมเพิ่มความสดใส+สดชื่นให้กับพี่ๆทุกคนค่ะ คอยสร้างความเฮฮาให้ทุกคนชิวๆ หายเหนื่อยได้ค่ะ
2. ชอบเรือนจำทุกที่ที่เคยไปค่ะ เพราะรู้สึกว่าพวกเขาเป็นคนที่ต้องการพระเจ้าอย่างมาก และเพลงของเราสามารถแตะต้องหัวใจของเขาจนน้ำตาไหลกันมาเลย พระเจ้าทรงให้อภัยเขาเสมอจริงๆค่ะ ทำให้กิฟได้เห็นความรักของพระเจ้าที่ให้อภัยกิฟเสมอเช่นกันค่ะ
คำพยาน 10 ปี Milal โดย Rutinan Chayawanich (มะตูม)
…เคยได้ยินเพลงหนึ่งร้องไว้ว่า “เมื่อเราให้พระองค์เป็น 1 และเราเป็น 0 แล้ว ก็จะพบว่ายอมเป็นเลข 0 ตามท้ายพระองค์มากเท่าไร ชีวิตก็ยิ่งมีค่าเท่านั้น” พระเจ้าทรงรู้จักตูมดียิ่งกว่าตัวตูมเอง ทุกครั้งที่รับใช้พระองค์ในมีลัลฯ ตูมพบว่าชีวิตเป็นเหมือนบทเพลงนี้ อัศจรรย์จริงๆ ! เวลาที่ได้ยืนร้องเพลงท่ามกลางป่าเขา เป็นช่วงเวลาที่ตูมประทับใจเป็นพิเศษ อย่างเช่น ที่บ้านเด็กกำพร้า (บ้านดาด้า) สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จำได้ติดตาว่า พวกเรานั่งรถกระบะตะลุยฝุ่นดินแดงกันเข้าไปในป่า และเห็นว่าเด็กๆ จำนวนมากมายมาคอยพวกเรา เป็นการร้องเพลงกลางแจ้ง สถานที่เปิดโล่งมาก พวกเด็กนั่งฟังเราบนพื้นดินตรงๆ โดยไม่มีอะไรรองนั่ง ตอนไปถึงยังไม่สะเทือนใจเท่าไร แต่เมื่อพวกเราเริ่มเปล่งเสียง และบทเพลงแห่งความรอดของพระเจ้าดังออกไปทั่วทุกทิศ….ไปไกลแค่ไหนไม่มีใครรู้ และไม่มีสิ่งใดขวางกั้นได้เลย เมื่อนั้นรู้สึกเหมือนว่าฟ้าสวรรค์ที่ซึ่งพระเจ้าทรงประทับนั้นอยู่ใกล้มาก ขอเพียงเอื้อมมือไป ก็จะได้จับพระหัตถ์พระเจ้า และคืนดีกับพระองค์ “อิมมานูเอล”……พระเจ้าทรงอยู่ท่ามกลางเรา……..ทรงสำแดงพระองค์ชัดเจนแบบนี้นี่เองตูมคิดว่า พระเจ้าทรงอนุญาตให้ตูมร่วมรับใช้ในมีลัลฯ ไม่ใช่เพราะพระองค์ ต้องการอะไรจากตูม แต่เพราะพระองค์ ต้องการให้ตูม มากกว่า…
คำพยาน 10 ปี Milal ของผมเอง ปลาทอง @plajazz
ผมเองเคยอยู่ในคณะนักร้องประสานเสียงของโรงเรียนตั้งแต่สมัยประถม แต่รู้สึกว่าร้องได้ไม่ดีเลย ตัวก็เล็ก เสียงก็เบา เลยคิดว่าเล่นดนตรีน่าจะดีกว่า แม้ว่าผมจะเกิดในครอบครัวคริสเตียน ทำให้มีโอกาสได้ร้องเพลง Caroling บ้าง แต่ก็ไม่ค่อยอินกับความหมายของเนื้อเพลงสักเท่าใด จนเมื่อมารับเชื่อและได้มีโอกาสชมคอนเสิร์ตครั้งแรกของคณะนักร้องมีรัลฯ ที่ตึกโอเชี่ยน นั่นเป็นครั้งแรกทีี่ World Milal มาร่วมกับคณะนักร้องของคนไทยซึ่งตอนนั้นก็กระจัดกระจายอยู่ตามโบสถ์ จนเริ่มเข้าที่เข้าทางมาเป็นคณะนักร้องประสานเสียงมีรัล มิชชันนารีกรุงเทพฯ ผมเองก็ยังคิดว่าผมคงร้องเพลงไม่ได้แน่ๆ แต่เมื่อได้มีโอกาสเข้าร่วมกับคณะฯ แล้ว ก็รู้สึกว่าได้รับพระพรเป็นอย่างมาก
จากเดิมที่คิดว่า เอ เราไปร้องเพลงพระเจ้าให้คนในที่ต่างๆ ฟัง จะน่าสนใจได้อย่างไร? แต่พอได้ไปมิชชันทริป ในที่ต่างๆ ทำให้เห็นว่า ที่พระเยซูกล่าวว่า “ทุ่งข้าวออกรวง แต่ยังขาดคนเกี่ยว” เป็นอย่างไร ทุกที่ที่เราไปมีคนโหยหาพระเจ้า เราได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ไม่ใช่เพราะเราร้องเพราะ แต่เพราะพระเจ้าสถิตย์กับเราและนำเอาพระพรมาให้พวกเขาเหล่านั้น และผมเองก็ได้รับพระพรด้วยเช่นกัน ประสบการณ์ในการเล่นดนตรีกับคณะนักร้องมีรัล ไม่ว่าจะไปตามจังหวัดใกล้เคียงหรือห่างไกล หรือแม้แต่มิชชั่นต่างประเทศ รวมถึงที่ผมได้ไปร่วมกับคณะนักร้องมีรัล แฟรงเฟิร์ต พันธกิจเรือนจำ บ้านพักคนชรา คนติดเชื้อเอดส์ คนไร้ที่พึ่งซึ่งมีปัญหาทางจิตประสาท นั้นแตกต่างกัน พระเจ้าให้ผมโตขึ้นในทางของพระองค์
ที่ว่าโตขึ้น..เพราะเรามักคิดว่าเราโตแล้ว เก่งแล้ว แต่เมื่อเจอกับมิชชั่นยากๆ หลายครั้งเราประกาศไม่ได้ ที่ออสเตรเลียเราเจอคนเมาและตำรวจเฝ้าติดตาม ที่นิวยอร์คอากาศหนาวจนไม่มีเสียง และหลายๆ ครั้งที่ผมรู้สึกว่าไม่สามารถทำอะไรได้ ทำให้ผมรู้ว่า เราไม่สามารถพึ่งพากำลัง ของตนเองได้ … แต่ก็อีกหลายครั้งเช่นกัน ที่รู้สึกว่าพระเจ้าจัดเตรียมผม อย่างเวลาที่ไฟดับ จะต้องพึ่งพาเสียงแตร (ซึ่งก็พึ่งได้บ้างไม่ได้บ้าง) งานกลางแจ้งอย่างออสเตรเลีย หรือฝนพรำที่ฟิลิปปินส์ แน่นอนพระเจ้าให้ผมเป่าแตรเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ โดยมิต้องกลัวสิ่งใดๆ .. และผลที่ได้รับนั้นช่างหอมหวาน ที่ผมประทับใจคือคำขอบคุณจากผู้ต้องขัง ที่บางครั้งเขาแสดงออกมาทางแววตา ซึ่งนี่คือสิ่งที่พระเจ้าทำงานในชีวิตของเขาเหล่านั้น เรารู้ได้เลยว่าพระเจ้าไม่ได้ทำงานกับเศรษฐีหรือคนดีๆ แต่พระเจ้าทำงานกับคนที่ไม่เคยได้รับความรักของพระองค์ ขอพระเจ้าได้รับเกียรติสูงสุดครับ…เอเมน
คำพยาน 10 ปี Milal โดย Kanokporn Tomorakul (พี่ไบรท์)
จำได้ว่าที่ จ. น่านที่เราไปครั้งนั้น ตอนร้องเพลงเสียงเพลงของเรานั้นไพเราะมาก เพราะด้านหลังของคณะนักร้องเป็นภูเขา จึงมีเสียงสะท้อนก้องกระหึมเป็น back up มาด้วย (บรรยายเป็นคำพูดไม่ถูกเลยค่ะ ใครช่วยเรียบเรียงที) เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกว่า พระเจ้าของเรายิ่งใหญ่มาก (ทั้งๆ ที่ตอนนั้นก็ร้องเพลงไม่ค่อยเป็น แต่ได้พี่อ้อยยืนอยู่ข้างๆ …เขียนไปน้ำตาก็จะไหล ตอนที่พี่อ้อยไม่สบาย ก็รู้สึกว่า ฉันคงเป็นนักร้องที่นี่ไม่ได้อีกต่อไป….T_T
แล้วก็ประทับใจตอนที่ไปเลี้ยงแพะและถ่ายรูปแพะกับหลาด้วย…เพิ่งรู้ว่า แพะมันร้องว่า แมะ ๆๆ เสียงดังมาก (เหมือนลูกเรียกแม่เลย)
ประทับใจการเดินขึ้นเขาด้วยรองเท้าบูธ (ประมาณ 2 กม.) ไปบ้านมิชชั่นนารีที่นั่น ผู้ที่อุทิศตัวและครอบครัวไปอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายปี เพื่อสอนให้ชาวบ้านรู้จักเลี้ยงกระต่ายเพื่อเป็นอาหาร และช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ด้วยการขายนมและสบู่นมแพะ ฯลฯ เป็นภาพแห่งความทรงจำที่ไม่รู้ลืมจริงๆ สำหรับมิชชั่นทริปอื่นๆ ก็ได้ทำให้เรารู้ว่า พวกเราควรออกไปประกาศจริงๆ พระเจ้าทรงรักพวกเราและพวกเขา…จึงทรงส่งพวกเราไปบอกเขาว่า พระเจ้าทรงสถิตย์อยู่กับพวกเราทุกคนและเฝ้ามองเราอยู่เสมอ…พระเยซูรักคุณทุกคนค่ะ!!!
พระเจ้าทรงสถิตย์อยู่กับพวกเราทุกคนและเฝ้ามองเราอยู่เสมอ…พระเยซูรักคุณทุกคนค่ะ!!!
ทักทาย